วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2555

PLC



การเรียนการสอนการควบคุมตรรกะโปรแกรม (มหาชน) ที่มีโมดูลควบคุม ST290 อุตสาหกรรมจาก LJ สร้าง



Programmable Logic Controller เครื่องควบคุมเชิงตรรกที่สามารถโปรแกรมได้
PLC : Programmable Logic Controller (มีต้นกำ เนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกา) เป็นเครื่องควบคุมอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรม
ที่ สามารถจะโปรแกรมได้ ถูกสร้างและพัฒนาขึ้นมาเพื่อทดแทนวงจรรีเลย์ อันเนื่องมาจากความต้องการที่อยากจะได้เครื่องควบ คุมที่มีราคาถูกสามารถใช้งานได้อย่างเอนกประสงค์ และสามารถเรียนรู้การใช้งานได้ง่าย
 ข้อแตกต่างระหว่าง PLC กับ COMPUTER
1. PLC ถูกออกแบบ และสร้างขึ้นเพื่อให้ทนต่อสภาพแวดล้อมในโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ
2. การโปรแกรมและการใช้งาน PLC ทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากเหมือนคอมพิวเตอร์ทั่วไป PLC มีระบบการตรวจสอบตัวเองตั้งแต่ช่วงติดตั้ง
    จนถึงช่วงการใช้งานทำให้การบำรุงรักษาทำได้ง่าย
3. PLCถูกพัฒนาให้มีความสามารถในการตัดสินใจสูงขึ้นเรื่อยๆทำให้การใช้งานสะดวกขณะที่วิธีใช้คอมพิวเตอร์ยุ่งยากและซับซ้อนขึ้น

ประวัติ PLC
ค.ศ.1969
            PLCได้ถูกพัฒนาขึ้นมาครั้งแรกโดย บริษัท Bedford Associates โดยใช้ชื่อว่า Modular Digital Controller(Modicon) ให้กับโรงงานผลิตรถยนต์ในอเมริกาชื่อ General Motors Hydramatic Division บริษัท Allen-Bradley ได้เสนอระบบควบคุมโดยใช้ชื่อว่า PLC
ค.ศ.1970-1979
            ได้มีการพัฒนาให ้PLC มีการ ประมวลผลที่เร็วมากขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของ Microprocessor ความสามารถใน การสื่อสารข้อมูลระหว่าง PLC กับ PLC โดยระบบแรก คือ Modbus ของ Modicon เริ่มมีการใช้อินพุท/เอาท์พุทที่เป็นสัญญาณ Analog
ค.ศ.1980-1989
            มีความพยายามที่จะสร้างมาตรฐานใน การสื่อสารข้อมูลของ PLC โดยบริษัท General Motor ได้สร้างโปรโตคอลที่เรียกว่า manufacturing automation protocal (MAP) ขนาดของ PLC ลดลงเรื่อย ๆผลิตซอฟแวร์ที่สามารถโปรแกรม PLC ด้วยภาษา symbolic โดยสามารถโปรแกรมผ่าน ทาง personal computer แทนที่จะโปรแกรมผ่านทาง handheld หรือ programing terminal
ค.ศ.1990-ปัจัจจุบัน
           ได้มีความพยายามในการที่จะ ทำให้ภาษาที่ใช้ในการโปรแกรม PLC มีมาตราฐานเดียวกันโดยใช้ มาตรฐาน IEC1131-3 สามารถโปรแกรม PLC ได้ด้วย
                    - IL (Instruction List)
                    - LD (Ladder Diagrams)
                    - FBD (Function Block Diagrams)
                    - SFC (Sequential Function Chart)
                    - ST (Structured Text)

โครงสร้างโดยทั่วไปของ PLC
ลักษณะโครงสร้างภายในของ PLC ซึ่งประกอบด้วย


1.ตัวประมวลผล(CPU)
          ทำ หน้าที่คำนวณเเละควบคุม ซึ้งเปรียบเสมือนสมองของ PLC ภายในประกอบด้วยวงจรลอจิกหลายชนิดและมีไมโครโปรเซสเซอร์เบส (Micro Processor Based)ใช้แทนอุปกรณ์จำพวกรีเลย์ เคาน์เตอร์/ไทม์เมอร์ และซีเควนเซอร์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถออกแบบวงจรโดยใช้ Relay Ladder Diagram ได้ CPU จะยอมรับข้อมูลจากอุปกรณ์อินพุทต่างๆ จากนั้นจะทำการประมวลผลและเก็บข้อมูลโดยใช้โปรแกรมจากหน่วยความจำ หลังจากนั้นจะส่งส่งข้อมูลที่เหมาะสมและถูกต้องออกไปยังอุปกรณ์เอาท์พุท
2.หน่วยความจำ(Memory Unit)
          ทำ หน้าที่เก็บรักษาโปรแกรมและข้อมูลที่ใช้ในการทำงาน โดยขนาดของหน่วยความจำจะถูกแบ่งออกเป็นบิตข้อมูล(Data Bit) ภายในหน่วยความจำ 1 บิต ก็จะมีค่าสภาวะทางลอจิก 0 หรือ 1แตกต่างกันแล้วแต่คำสั่ง ซึ่ง PLC ประกอบด้วยหน่วยความจำสองชนิดคือ ROM และRAM
          RAM ทำหน้าที่เก็บโปรแกรมของผู้ใช้และข้อมูลที่ใช้ในการปฏิบัติงานของ PLC หน่วยความจำประเภทนี้จะมีแบตเตอรี่เล็กๆ ต่อไว้เพื่อใช้เป็นไฟเลี้ยงข้อมูลเมื่อเกิดไฟดับ การอ่านและการเขียนข้อมูลลงใน RAM ทำได้ง่ายมาก  เพราะฉะนั้นจึ่งเหมากับงานในระยะทดลองเครื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข โปรแกรมอยู่บ่อยๆ
          ROM ทำหน้าที่เก็บโปรแกรมสำหรับใช้ในการปฏิบัติงานของ PLC ตามโปรแกรมของผู้ใช้ หน่วยความจำแบบ ROM ยังสามารถแบ่งได้เป็น EPROM ซึ่งจะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษในการเขียนและลบโปรแกรม เหมาะกับงานที่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงโปรแกรม นอกจากนี้ยังมีแบบ EEPROM หน่วยความจำประเภทนี้ไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการเขียนและลบโปรแกรม สามารถใช้งานได้เหมือนกับ RAM แต่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่สำรอง แต่ราคาจะแพงกว่าเนื่องจากรวมคุณสมบัติของ ROM และ RAM ไว้ด้วยกัน
3.หน่วยอินพุต-เอาต์พุต (Input-Output Unit)
          หน่วยอินพุต ทำหน้าที่รับสัญญาณจากอุปกรณ์ภายนอกแล้วแปลงสัญญาณให้เป็นสัญญาณที่เหมาะสมแล้วส่งให้หน่วยประมวลผลต่อไป



หน่วยเอาต์พุต ทำหน้าที่รับข้อมูลจากตัวประมวลผลแล้วส่งต่อข้อมูลไปควบคุมอุปกรณ์ภายนอกเช่น ควบคุมหลอดไฟ มอเตอร์ และวาล์ว เป็นต้น
 4.แหล่งจ่ายไฟ (Power Supply)
          ทำหน้าที่จ่ายพลังงานและรักษาระดับแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงให้กับ CPU Unit หน่วยความจำและหน่วยอินพุท/ เอาท์พุท
5.อุปกรณ์ต่อร่วม (Peripheral Devices)
          • PROGRAMMING CONSOLE
          • EPROM WRITER
          • PRINTER
          • GRAPHIC PROGRAMMING
          • CRT MONITOR
          • HANDHELD
          • etc




วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

รายชื่อสมาชิกในห้อง

อาจารย์ ธภัทร ชัยชูโชค          อาจารย์ผู้สอน
นางสาวปวีณา  เคี่ยมขาว  น้องแนน
นางสาววชิรญาณ์  แซ่ก็อก  น้องญา
นายภูวดล  เอียดเพ็ชร  พี่มิ๊ก
นายอรรถพล  แก้วไพรี  พี่โอ๋
นายจารึก  นะระโต  พี่แดง

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อินเตอร์เน็ต


อินเตอร์เน็ตคืออะไร
อินเตอร์เน็ต (Internet) คือ เครือ ข่ายคอมพิวเตอร์ ขนาดยักษ์ ที่เชื่อม ต่อกัน ทั่วโลก โดยมี มาตรฐาน การ รับส่ง ข้อมูล ระหว่าง กันเป็น หนึ่ง เดียว ซึ่ง คอมพิวเตอร์ แต่ละ เครื่อง สามารถ รับส่ง ข้อมูล ในรูป แบบต่าง ๆ ได้ หลาย รูปแบบ เช่น ตัวอักษร,ภาพกราฟิก และ เสียงได้ รวมทั้ง สามารถ ค้นหาข้อมูล จากที่ต่าง ๆ ได้อย่าง รวดเร็ว
ทำไมต้องใช้อินเตอร์เน็ต
ในยุค สังคม ข่าวสาร ข้อมูล ดังทุก วันนี้ การ สื่อสาร รูปแบบ ต่าง ๆ ถูก พัฒนา ขึ้นให้ คนเรา สื่อสาร ถึงกัน ง่ายที่ สุด และ สะดวก ที่สุด การ สื่อสาร ถึงกัน ด้วย คำพูด ผ่าน ทาง โทรศัพท์ ย่อม ไม่เพียง พออีก ต่อไป เรา ต้อง การมาก กว่า นั้น เช่น ภาพ เสียง และ ข้อความ ตัวอักษร รวม ทั้ง ข้อมูล คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ซึ่ง อินเตอร์เน็ต สามารถ เข้ามา ตอบสนอง ได้ใน จุดนี้เมื่อเราเชื่อมต่อเครือข่ายของอินเตอร์เน็ต
เราสามารถติดต่อกับเพื่อนของเราใน สหรัฐ เมริกา ผ่าน อิเล็กทรอนิกส์ เมล์, ข้าม ไป ค้นหา ข้อมูล ที่ ยุโรป แล้ว กอปปี้ ไฟล์ ไปที่ ออสเตรเลีย ได้ จาก เครื่อง คอมพิวเตอร์ ที่บ้าน ที่ มหาวิทยาลัย หรือ ที่ทำงาน ของเรา โดย ใช้เวลา ทั้งหมด ภายใน ไม่ กี่ นาที ทำ ให้ การ ติดต่อ สื่อสาร นั้นเป็น ไปอย่าง รวดเร็ว และ มี ประสิทธิภาพ นอกจาก นี้ค่า ใช้จ่าย ก็ยัง ถูกกว่า วิธี อื่น เมื่อ เทียบ กับการ ติดต่อ ทาง โทรศัพท์, การส่ง โทรสาร และ การ ส่งข้อมูล ผ่าน โมเด็ม โดยตรง กับ ปลายทาง แล้ว การใช้ งาน ผ่าน อินเตอร์เน็ต มีค่า ใช้จ่าย ถูก กว่า หลายเท่า นี่ เป็น เหตุผล หลัก ที่ว่า ทำไม เราต้อง ใช้ อินเตอร์เน็ต ซึ่งนับ เป็นการ ปฏิวัติ สังคม ข่าวสาร ครั้ง ใหญ่ที่ สุดใน ยุค ของ เรา
ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต มีดังนี้
ในด้านการศึกษา เรา สามารถ ต่อเข้า กับ อินเตอร์เน็ต เพื่อ ค้นคว้า หา ข้อมูล ได้ ไม่ ว่าจะ เป็น ข้อมูล ทาง วิชาการ จาก ที่ ต่าง ๆ ซึ่ง ใน กรณี นี้ อินเตอร์เน็ต จะ ทำหน้า ที่ เหมือน ห้อง สมุด ขนาด ยักษ์ ส่ง ข้อมูล ที่เรา ต้อการ มาให้ ถึง บน จอ คอมพิวเตอร์ ของเรา ในเวลา ไม่ กี่ วินาที จาก แหล่ง ข้อมูล ทั่วโลก ไม่ ว่าจะ เป็น ข้อมูล ด้าน วิทยาศาสตร์, วิศวกรรม, ศิลปกรรม, สังคมศาสตร์, กฎหมาย และ อื่น ๆ นัก ศึกษา มหาวิทยาลัย สามารถ ติดต่อ กับ มหาวิทยาลัย อื่น ๆ เพื่อ ค้นหา ข้อมูล ที่กำลัง ศึกษา อยู่ ได้ ทั้ง ข้อมูล ที่เป็น ตัว อักษร, ภาพ และ เสียง หรือ แม้ แต่ มัลติมิเดีย ต่าง ๆ
               ในด้านการรับส่งข่าวสาร ผู้ใช้ ที่ต่อ เข้าอินเตอร์ เนต สามารถ รับส่ง ข้อมูล จดหมาย อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) กับผู้ ใช้ คนอื่น ๆ ทั่ว โลก ในเวลา อัน รวดเร็ว ได้ โดย มีค่า ใช้ จ่าย ต่ำมาก เมื่อ เทียบ กับการ ส่ง จดหมาย หรือ ส่ง ข้อมูล วิธี อื่น ๆ นอก จาก นั้น ยัง อาจ ส่ง ข้อมูล คอมพิวเตอร์ ในรูป แบบ ต่าง ๆ เช่น แฟ้ม ข้อมูล รูปภาพ จนไป ถึง ข้อมูล ที่ เป็น ภาพ และ เสียง ได้อีก ด้วย
               ในด้านธุรกิจและการค้า อินเตอร์เน็ต มีบริการ ในรูปแบบ ของการ ซื้อขาย สินค้า ผ่าน คอมพิวเตอร์ เรา สามารถ เลือกดู สินค้า พร้อม ทั้ง คุณ สมบัติ ต่าง ๆ ผ่าน จอ คอมพิวเตอร์ ของ เรา แล้ว สั่งซื้อ และ จ่ายเงิน ด้วย บัตร เครดิต ได้ ทันที ซึ่ง นับว่า สะดวก และ รวดเร็ว มาก นอก จากนี้ ผู้ ที่ ใช้ ที่ เป็น บริษัท หรือ องค์กร ต่าง ๆ ก็ สามารถ เปิด ให้ บริการ และ สนับสนุน ลูกค้า ของ คนผ่าน อินเตอร์เน็ต ได้ เช่น การตอบ คำถาม, ให้ คำ แนะนำ รวม ถึงการ ให้ข่าวสาร ใหม่ ๆ แก่ ลูกค้า ได้
               ในด้านการบันเทิง เรา สามารถ เข้า ไป เลือก อ่าน หนังสือ วารสาร ต่าง ๆ ผ่าน อินเตอร์เน็ต ได้ ค้นหา ข้อมูล เกี่ยว กับภาพยนตร์ ดนตรี และ อื่น ๆ อีก มากมาย ซึ่ง ปัจจุบันเรา สามารถ ทำเป็น ภาพ เคลื่อน ไหว และ มีเสียง ประกอบ ได้อีก ด้วย

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ประวัติส่วนตัว

นางสาวสุนิษา  หนูวงศ์

เกิดวันที่  8  กุมภาพันธ์  2534  อายุ  21  ปี

จบจากโรงเรียนพณิชยการหาดใหญ่
คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม

424/7 ถ.ไทรบุรี  ต.บ่อยาง  อ.เมือง  จ.สงขลา  90000
โทร 087-4797879

E-mail : cassanoveedeer@gmail.com